น่าสนใจ

วันอังคารที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2553

7 สิ่งที่ควรหยุดทำใน Facebook

เรื่องราวร้องทุกข์จากอาชญากรรมทางอินเตอร์เนตอย่าให้รายละเอียดเกี่ยวกับตัวคุณมากนักบน Facebook และที่ Online อื่นๆ เอาล่ะเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ประเทศสเปน มีผู้หญิงคนหนึ่งได้โพสรูปของเธอซึ่งเป็นรูปที่เธอดูดีบน Facebook แน่นอนว่ามีคนขอเธอเป็นเพื่อนมากมายและเธอก็รับทั้งหมด หนึ่งในนั้นเป็นผู้ชายที่เริ่มขอเจอเธอ และคาดว่าอยากมีsex กับเธอ


เธอปฏิเสธเขาแต่เนื่องจากเธอใส่ที่อยู่ , เบอร์โทรศัพท์ และรายละเอียดอื่นๆเขาไปหาเธอตามที่อยู่นั้น และสิ่งที่เกิดขึ้นกับเธอเหมือนฝันร้ายของครอบครับเธอ

7 สิ่งต่อไปนี้ไม่ควรทำใน Facebook

1. ใช้รหัสผ่านแบบง่าย ๆ
หลีกเลี่ยงการใช้ชื่อธรรมดา หรือคำทั่วไปที่สามารถหาพบได้ในพจนานุกรมหรือแม้แต่ตัวเลขที่ลงท้ายรหัสผ่านดังกล่าว ควรใช้การผสมระหว่างด้านหน้า ด้านหลังตัวอักษร ด้วยตัวเลข หรือสัญลักษณ์รหัสผ่านควรมีแปดตัวอักษรอย่างน้อย เทคนิคที่ดีอย่างหนึ่งคือการเพิ่มตัวเลขหรือสัญญลักษณ์ระหว่างกลางคำผ่าน

2. ระบุวันเดือนปีเกิดในข้อมูลสาธารณะ
โจรภัยทางข้อมูลแบบเบื้องต้นผู้ไม่หวังดีมักจะใช้ในการค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวคุณเพราะมันจะมีประโยชน์อย่างมากในการเข้าถึงข้อมูลธนาคารหรือบัตรเครดิตถ้าคุณได้ระบุวันเกิด ให้กลับไปที่ข้อมูลส่วนตัว เข้าไปแก้ไขข้อมูลส่วนตัวระบุข้อมูลพื้นฐานคือ ไม่แสดงวันเกิดในข้อมูลส่วนตัว หรือแสดงเฉพาะวันและเดือนเกิดในหน้าข้อมูลส่วนตัว(การติดต่อสอบถามเกี่ยวกับบัตรเครดิต มักจะต้องตอบข้อมูลเรื่องนี้ด้วย)

3. ตรวจสอบการใช้งานของข้อมูลส่วนตัว
ข้อมูลทั้งหมดใน Facebook คุณควรกำหนดสิทธิ์ในการเข้าถึงของเพื่อนหรือเพื่อนของเพี่อน หรือตัวคุณเองเช่น การเข้าชมรูปภาพ วันเกิด ศาสนา และข้อมูลของครอบครัวหรือสิ่งอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับตัวคุณเอง เช่น ข้อมูลในการติดต่อเบอร์โทรศัพท์ สถานที่อยู่ควรจำกัดสิทธิ์เฉพาะบุคคลหรือกลุ่มที่สามารถจะเข้าถึงข้อมูลดังกล่าวหรือจัดการบล็อก(ห้าม)บุคคลบางคนหรือไม่ให้บุคคลภายนอกสามารถเข้าถึงข้อมูลดังกล่าว

4. ระบุชื่อบุตรหลาน โดยมีข้อความที่อธิบายหรือตำบรรยายใต้ภาพประกอบ
ใม่ควรระบุชื่อบุตรหลานหรือป้ายกำกับ(tags)หรือ มีคำอธิบาย/บรรยายรายละเอียดใต้ภาพและถ้าได้มีคนอื่นหรือเพื่อนคุณทำเช่นว่านั้นก็ขอให้ช่วยแก้ไขหรือลบออกพร้อมกับป้ายกำกับด้วยแต่ถ้าชื่อบุตรหลานของคุณไม่ได้อยู่ใน Facebookแต่ได้มีบางคนได้ระบุข้อมูลดังกล่าวไว้ในป้ายกำกับ(tags) หรือ หรือมีคำอธิบายหรือบรรยายรายละเอียดใต้ภาพก็ขอให้เจ้าของข้อมูลดังกล่าวแก้ไข/ลบออกด้วย
(เป็นช่องทางให้ผู้ไม่หวังดีใช้ข้อมูลดังกล่าวในการก่ออาชญากรรมบางเรื่องได้ง่ายเพราะรู้ว่าเป็นลูกหลานของใครมีฐานะการเงินเป็นเช่นไร)

5. การบอกว่า กำลังออกจากบ้าน
เป็นนัยที่สื่อความหมายว่า ไม่มีใครอยู่ในบ้านหรือคล้ายเป็นการปิดป้ายว่า “ไม่อยู่” ไว้ที่หน้าบ้านเช่นกันให้รอจนคุณกลับถึงบ้านแล้วค่อยบอกถึงการผจญภัยหรือความสนุกสนานในการเดินทางหรือการใช้วันหยุดพักผ่อน โดยอาจจะไม่ต้องระบุวันเดือนปีที่เดินทางก็ได้ หรือระบุวันเดือนปีที่เดินทางให้คลุมเครือไม่ชัดเจน

6. การปล่อยให้ Facebook ค้นหา พบคุณ
เพื่อป้องกันคนแปลกหน้าเข้าถึงหน้าข้อมูลของคุณให้ไปที่การค้นหาของ Facebook ข้อมูลส่วนตัวและเลือกเฉพาะเพื่อนเท่านั้นของ Facebook ที่จะค้นพบข้อมูลดังกล่าวและให้มั่นใจว่ากล่องข้อมูลสาธารณะไม่ได้ระบุให้เข้าถึงข้อมูลดังกล่าวได้

7. อย่าให้เด็กใช้ Facebook โดยไม่ตรวจสอบควบคุม
แม้ว่า Facebook จะไม่อนุญาตให้เด็กอายุต่ำกว่าสิบสามขวบหรือยังไม่ถึงเกณฑ์ใช้งานแต่หลายคนก็ทำการปลอมอายุเข้าไปใช้ได้ถ้าคุณมีเด็กหรือวัยรุ่นในความปกครองใช้ Facebookวิธีการที่ดีที่สุดในการตรวจสอบและควบคุม คือการเข้าร่วมเป็นสมาชิกในกลุ่มเพี่อนของเขาหรือให้ใช้ email ของคุณแทนในการติดต่อระหว่างบัญชีของเขาเพื่อที่คุณจะได้รับข้อความหรือตรวจสอบการใช้งานของเขา“เพราะสิ่งที่พวกเขาคิดว่าไม่เป็นไร ไม่มีอะไรกลับกลายเป็นสิ่งที่เลวร้ายอย่างง่ายดาย” ยกตัวอย่างเช่น มีเด็กคนหนึ่งมักจะบอกว่า "แม่กำลังจะกลับบ้านแล้ว ฉันต้องไปล้างจาน"มักจะบอกทุก ๆ วัน ในเวลาเดิมเสมอมันเป็นการบอกเวลาที่ชัดเจนมากเกี่ยวกับการเดินทางไปกลับของพ่อแม่(บอกช่วงเวลาที่ไม่มีผู้ใหญ่อยู่ที่บ้านคนร้ายอาจกะระยะเวลาก่อกรรมทำชั่วได้ง่ายขึ้น)