การเบรคแบ่งเป็น 2 แบบหลัก คือ เบรกเพื่อชะลอความเร็วและเบรคเพื่อหยุดรถ และเพื่อความปลอดภัย
ก่อนเบรคควรประเมินสถานการณ์ด้านหน้าและด้านหลังให้ดีซะก่อน
เพื่อที่น้ำหนักในการเบรคจะได้เป็นไปอย่างเหมาะสม เพื่อความปลอดภัยสูงสุดในการขับขี่
เรามาดูกันดีกว่าว่าการเบรคแต่ละครั้งต้องทำเช่นไร
เบรคเพื่อชะลอความเร็ว
น้ำหนักในการเบรคต้องสัมพันธ์กับความเร็วของรถยนต์คันอื่น ๆ
ไม่ควรกดเบรคหนักจนความเร็วลดลงมากเกินไป เพราะจะทำให้สิ้นเปลืองทั้งเวลาและน้ำมันเชื้อเพลิง
เพราะถ้าหากว่าเครื่องมีความเร็วลดลงมากเกินและกลับมาเร่งความเร็วอีกที
จะทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันมากกว่าปรกติ แต่ก็ไม่ควรแตะเบรคเบาเกินไปจนขาดความปลอดภัย
เบรคเพื่อหยุดในสภาพปรกติ
ควรแตะเบรคล่วงหน้า ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นการส่งสัญญาณไฟเบรคเตือนให้รถยนต์ที่ตามมาคันหลังได้เตรียมตัวเบรค
ที่สำคัญไม่ควรขับเข้าไปใกล้คันหน้าและกดเบรคอย่างรุนแรง เพราะอาจจะทำให้รถเสียการทรงตัว
ซึ่งจะทำให้เกิดความสึกหรอในชุดได้เบรคสูง
หรือบางทีรถยนต์คันหลังที่ตามมาอาจเบรคไม่ทันจนชนท้ายรถของคุณก็เป็นได้
ในสถานการณ์ฉุกเฉิน
ควรหยุดให้ใกล้รถยนต์คันหน้ามากที่สุด เพื่อรถยนต์ที่ตามมาด้านหลังจะได้มีระยะในการเบรคมากขึ้น
และสำหรับรถยนต์เกียร์ธรรมดา ต้องเหยียบคลัตช์เมื่อตอนรถยนต์เกือบหยุดแล้วเท่านั้น
เพราะการเหยียบเบรคไปพร้อมกับการเหยียบคลัตช์นั้น เปรียบเสมือนการเหยียบเบรคไปพร้อมกับปลดเกียร์ว่าง
ซึ่งเครื่องยนต์ที่ถูกปลดออกจากการขับเคลื่อนจะไม่สามารถหน่วงช่วยในการเบรคได้
โดยจะทำรถยนต์มีแรงเฉื่อยเพิ่มขึ้น เบรคต้องทำงานหนักขึ้น และระยะทางในการหยุดรถก็เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน
เบรคในขณะที่ยังค้างอยู่ในเกียร์ขับเคลื่อน
เครื่อง ยนต์ยังใช้รอบการหมุนหน่วงความเร็วของตัวรถยนต์อยู่
จึงควรเริ่มเหยียบคลัตช์เมื่อรถยนต์ใกล้หยุดสนิท เพื่อไม่ให้เครื่องยนต์ดับ
ส่วนเกียร์อัตโนมัติก็กดเบรกอย่างเดียว ไม่ควรปลดเกียร์ว่างแล้วเบรค
เพราะอาจทำให้เกิดความเสียหายในชุดเกียร์ได้
การลดเกียร์ลงต่ำ เพื่อช่วยเบรคเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ
เพราะจะทำให้รอบเครื่องยนต์สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว จนชิ้นส่วนภายในเครื่องยนต์เกิดความสึกหรอมากกว่าปรกติ
หรือเกิดความเสียหายได้
ล้อขับเคลื่อนที่หมุนด้วยความเร็ว เมื่อถูกหน่วงด้วยเครื่องยนต์ เพลาขับจะได้รับแรงบิดสูง
อาจทำให้เพลาขับสึกหรอมากกว่าปรกติ
ไม่ว่ารถของคุณจะมีระบบความปลอดภัยราคาแพงเท่าไร แต่ถ้าหากคุณขับโดยความประมาท
อุปกรณ์ราคาหลายล้านก็ไม่อาจจะช่วยคุณได้
ทางที่ดีที่สุดเลยก็คือ คุณต้องมีสติและมีสมาธิอยู่ตลอด เพื่อความปลอดภัยของคุณและเพื่อนร่วมทาง
ที่มา รถวันนี้
ก่อนเบรคควรประเมินสถานการณ์ด้านหน้าและด้านหลังให้ดีซะก่อน
เพื่อที่น้ำหนักในการเบรคจะได้เป็นไปอย่างเหมาะสม เพื่อความปลอดภัยสูงสุดในการขับขี่
เรามาดูกันดีกว่าว่าการเบรคแต่ละครั้งต้องทำเช่นไร
เบรคเพื่อชะลอความเร็ว
น้ำหนักในการเบรคต้องสัมพันธ์กับความเร็วของรถยนต์คันอื่น ๆ
ไม่ควรกดเบรคหนักจนความเร็วลดลงมากเกินไป เพราะจะทำให้สิ้นเปลืองทั้งเวลาและน้ำมันเชื้อเพลิง
เพราะถ้าหากว่าเครื่องมีความเร็วลดลงมากเกินและกลับมาเร่งความเร็วอีกที
จะทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันมากกว่าปรกติ แต่ก็ไม่ควรแตะเบรคเบาเกินไปจนขาดความปลอดภัย
เบรคเพื่อหยุดในสภาพปรกติ
ควรแตะเบรคล่วงหน้า ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นการส่งสัญญาณไฟเบรคเตือนให้รถยนต์ที่ตามมาคันหลังได้เตรียมตัวเบรค
ที่สำคัญไม่ควรขับเข้าไปใกล้คันหน้าและกดเบรคอย่างรุนแรง เพราะอาจจะทำให้รถเสียการทรงตัว
ซึ่งจะทำให้เกิดความสึกหรอในชุดได้เบรคสูง
หรือบางทีรถยนต์คันหลังที่ตามมาอาจเบรคไม่ทันจนชนท้ายรถของคุณก็เป็นได้
ในสถานการณ์ฉุกเฉิน
ควรหยุดให้ใกล้รถยนต์คันหน้ามากที่สุด เพื่อรถยนต์ที่ตามมาด้านหลังจะได้มีระยะในการเบรคมากขึ้น
และสำหรับรถยนต์เกียร์ธรรมดา ต้องเหยียบคลัตช์เมื่อตอนรถยนต์เกือบหยุดแล้วเท่านั้น
เพราะการเหยียบเบรคไปพร้อมกับการเหยียบคลัตช์นั้น เปรียบเสมือนการเหยียบเบรคไปพร้อมกับปลดเกียร์ว่าง
ซึ่งเครื่องยนต์ที่ถูกปลดออกจากการขับเคลื่อนจะไม่สามารถหน่วงช่วยในการเบรคได้
โดยจะทำรถยนต์มีแรงเฉื่อยเพิ่มขึ้น เบรคต้องทำงานหนักขึ้น และระยะทางในการหยุดรถก็เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน
เบรคในขณะที่ยังค้างอยู่ในเกียร์ขับเคลื่อน
เครื่อง ยนต์ยังใช้รอบการหมุนหน่วงความเร็วของตัวรถยนต์อยู่
จึงควรเริ่มเหยียบคลัตช์เมื่อรถยนต์ใกล้หยุดสนิท เพื่อไม่ให้เครื่องยนต์ดับ
ส่วนเกียร์อัตโนมัติก็กดเบรกอย่างเดียว ไม่ควรปลดเกียร์ว่างแล้วเบรค
เพราะอาจทำให้เกิดความเสียหายในชุดเกียร์ได้
การลดเกียร์ลงต่ำ เพื่อช่วยเบรคเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ
เพราะจะทำให้รอบเครื่องยนต์สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว จนชิ้นส่วนภายในเครื่องยนต์เกิดความสึกหรอมากกว่าปรกติ
หรือเกิดความเสียหายได้
ล้อขับเคลื่อนที่หมุนด้วยความเร็ว เมื่อถูกหน่วงด้วยเครื่องยนต์ เพลาขับจะได้รับแรงบิดสูง
อาจทำให้เพลาขับสึกหรอมากกว่าปรกติ
ไม่ว่ารถของคุณจะมีระบบความปลอดภัยราคาแพงเท่าไร แต่ถ้าหากคุณขับโดยความประมาท
อุปกรณ์ราคาหลายล้านก็ไม่อาจจะช่วยคุณได้
ทางที่ดีที่สุดเลยก็คือ คุณต้องมีสติและมีสมาธิอยู่ตลอด เพื่อความปลอดภัยของคุณและเพื่อนร่วมทาง
ที่มา รถวันนี้