น่าสนใจ

วันอังคารที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2555

การดูแลรักษาระบบเบรค

การดูแลรักษาระบบเบรค



หน้าที่ของเบรกคือการหยุดรถหรือทำให้การเคบื่อนไหวของรถช้าลงตามความต้องการ
ตลอดเวลาขับขี่ ฉะนั้นเบรกจึงต้องทำการหยุดรถได้แน่นอนและรวดเร็วตลอดเวลา
เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุทางทรัพย์สินและชีวิต

เบรกในปัจจุบันนี้นิยมใช้กันอยู่ 2 ประเภท

1. ดรัมเบรกเป็นระบบเบรกรุ่นเก่าที่ยังมีใช้อยู่ในรถเก๋งบางรุ่น
ในส่วนของดรัมเบรกจะมีลักษณะเป็นแผ่นเบรกสองแผ่นดันบริเวณกระทะเบรกเพิ่ม
ความเสียดทาน เพื่อช่วยในการหยุดรถ หรือชะลอรถ
การใช้ดรัมเบรกจะใช้ครบทั้ง 4 ล้อในตอนแรก
และล้อมั้ง 4 ล้อในวงจรเบรกจะทำงานอย่างสัมพันธ์กัน

2. ดิสก์เบรก
เป็นระบบเบรกที่นิยมใช้กันในปัจจุบัน อาจจะเป็นระบบดิสก์เบรกทั้ง 4 ล้อ หรือ
เบรก 2 ล้อหน้าเป็นดิสก์เบรก 2 ล้อหลังเป็นดรัมเบรก
ระบบการทำงานของดิสก์เบรกจะแยกทำงานกันคนละส่วนเป็นอิสระต่อกัน
ระบบนี้เป็นระบบในรถรุ่นใหม่ รถรุ่นเก่ายังคงเป็นระบบที่ทำงานร่วมกัน

หลักใหญ่ที่จะทำให้เบรกมีประสิทธิภาพคือ
น้ำมันเบรกเป็นส่วนสำคัญนับจากชิ้นส่วนอื่นๆที่ใช้ร่วมกัน
ในระบบเบรกระดับของน้ำมันเบรกจะมีส่วนคล้ายกับระบบของน้ำมันเครื่อง
คือต้องพยายามคอยดูแลไม่ให้ลดลงกว่าระดับมาตรฐานที่วางไว้ ต้องคอยเช็กอยู่เสมอ
น้ำมันเบรกนี้จะมีขายอยู่ตามปั้มน้ำมันทั่วไป คุณภาพในแต่ละยีห้อนั้นใกล้เคียงกัน
อยู่ที่ว่าต้องการยี่ห้อไหนหรืออาจใช้ตามมาตรฐานของคู่มือรถที่ให้มา นับว่าเป็นวิธีที่ดีที่สุด


การตรวจสอบและเติมน้ำมันเบรก
น้ำมันเบรกเป็นส่วนประกอบสำคัญอันหนึ่งในการเบรก ฉะนั้นจึงควรตรวจสอบให้อยู่ในระดับ
ที่พอดีเสมอ หากปล่อยให้น้ำมันเบรกแห้งหรือรั่วไหลออกไปจนหมดหรือ
เหลือน้อยการเบรกอาจไม่มีประสิทธิภาพทำให้เกิดอุบัติเหตุได้


ขั้นตอนการเติมน้ำมันเบรก
1. เปิดฝากระโปรงรถยนต์

2. ถ้วยน้ำมันเบรกจะติดอยู่บริเวณชิดกับตัวถังรถในส่วนที่ติดกับกระจก ให้เช็กระดับของน้ำมันเบรกในถ้วยว่าอยู่ในระดับไหน
ถ้าระดับน้ำมันเบรกอยู่ MAX ไม่ต้องเติมน้ำมันเบรก MIN
ต้องเติมน้ำมันเบรกให้ถึงเส้น MAX ห้ามเติมน้ำมันเบรกเกินระดับ MAX
เพราะจะทำให้น้ำมันเบรกกระฉอกเวลารถวิ่ง
ซึ่งน้ำมันเบรกจะทำปฏิกิริยากับสีรถหรือบริเวณใกล้เคียงให้เสียหายได้

3. ก่อนเปิดฝาน้ำมันเบรกให้เช็ดทำความสะอาดบริเวณฝาปิด-เปิด ให้สะอาด
เพื่อป้องกันเม็ดทรายหรือละอองต่างๆตกลงไป ซึ่งอาจทำใหระบบเบรกเสียหายได้

4. เติมน้ำมันเบรกลงไปในถ้วยตามระดับในข้อที่ 2

5. ปิดฝาให้เรียบร้อย อย่าลืมก่อนปิดฝาต้องทำความสะอาดบริเวณฝาปิด
ถ้วยน้ำมันเบรกด้วย มีรถยนต์รุ่นเก่าบางรุ่น
ถ้วยน้ำมันเบรกจะติดอยู่บริเวณหัวเก๋งด้านคนขับก็ใช้วิธีการเติมแบบเดียวกัน

การดูแลรักษาระดับน้ำมันเบรกและเติมน้ำมันเบรกให้ดูทุกๆ 3 วัน อย่าทิ้งให้นาน
เพราะปริมาณน้ำมันเบรกจะลดลงในการใช้งานทุกครั้งจึงต้องหมั่นดูแล

ข้อควรระวัง
น้ำมันเบรกสามารถทำปฏิกิริยากับสีรถได้ ฉะนั้นเมื่อทำหกหรือหยดลงบริเวณตัวถังรถ
รีบเช็ดให้แห้งทันที อย่าปล่อยไว้เพราะจะทำให้สีถลอกได้
และห้ามวางขวดน้ำมันเบรกบนฝากระโปรงรถอย่างเด็ดขาด

น้ำมันเบรกควรจะมีการเช็กถึงคุณสมบัติ
เมื่อรถยนต์วิ่งได้ประมาณ 10,000 กิโลเมตร และเช็กทุก 10,000 กิโลเมตร
จนถึง 40,000 กิโลเมตร จึงถ่าย น้ำมันเบรกเก่าออกแล้วเติมน้ำมันเบรกใหม่ลงไปแทนที่


สำหรับในส่วนของผ้าเบรกจากเบรกนั้น
ยกให้เป็นหน้าที่ของช่างตรวจสภาพเมื่อครบตามเวลาหรือระยะทางที่กำหนดมาให้
ในคู่มือรถยนต์ เพราะเป็นส่วนที่ไม่สามารถทำได้ด้วยตนเอง

เบรกมือ
คือเบรกที่ใช้ช่วงรถจอดสนิทหรือขณะที่รถขึ้นสะพานแล้วรถติดหรือทางลาดชันและ
รถติดอีกเช่นกัน ระบบเบรกมือนี้จะเป็นกลไกที่จะไปล็อกล้อหลังไม่ให้เคลื่อนที่

เบรกมือจะอยู่บริเวณเกียร์ คืออยู่ถัดจากเกียร์ลงมาทางด้านหลังในกรณีของรถเก๋ง
และอยู่บริเวณข้างพวงมาลัยรถในกรณีของรถบรรทุกเล็กและรถตู้

การดูแลรักษาเบรกมือไม่มีอะไร เพราะไม่มีส่วนที่ต้องคอยดูแล เพียงแต่เมื่อใส่เบรกมือ
แล้วเวลาจะออกรถอย่าลืมปลดเบรกมือด้วย จะสังเกตได้จากไฟเบรก
ซึ่งจะทำระบบเบรกทางล้อหลังเสียได้ แต่รถยนต์บางรุ่นถ้ารถไม่ได้ปลดเบรกมือ
รถยนต์จะไม่วิ่งจนกว่าจะปลดเบรกมือให้เรียบร้อยเสียก่อน

การใช้เบรกมือที่มีตำแหน่งอยู่บริเวณใต้พวงมาลัยให้ด้ามจับเบรกมือขึ้นมาจนสุดเช่นกัน
แล้วหมุนไปทางขวาสูงสุด เวลาปลดก็ให้หมุนมาทางซ้ายและกด เช่นกัน


เรื่องน่ารู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับเบรก
เบรกแบบดิสก์หรือแบบจานจะมีประสิทธิภาพการเบรกได้ดีกว่าเบรกแบบดรัม
หรือแบบกระทำรถโดยทั่วไป นิยมใช้เบรกทั้งสองร่วมกันเพื่อป้องกันปัญหาที่ระบบเบรก
เกิดเสียขึ้นมาส่วนใดส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งก็ยังสามารถทำงานได้

ข้อมูลจาก : http://benznk.com/motortech28.html
ที่มา : นิตยสารตลาดรถ คอลัมน์รักษ์รถ