นอนไม่หลับเป็นปัญหาใหญ่ที่คุกคามคุณภาพชีวิตของผู้คนสมัยใหม่ ใครๆคงรู้ฤทธิ์ร้ายของการนอนไม่หลับมาแล้ว นอนไม่หลับมีทางแก้ด้วยธรรมชาติบำบัดโดยไม่ต้องกินยา ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจถึงสรีระของการนอนหลับเสียก่อน
นักวิทยาศาสตร์จากห้องปฏิบิการเกี่ยวกับการนอนรู้มานานแล้วว่า การนอนหลับของคนเรามี 4 ระยะ คือ ระยะ 4-3-2-1-rem สำหรับ rem นั้นย่อมาจากคำว่า rapid eye movement ซึ่งแปลว่าในระยะดังกล่าว คนนอนหลับจะมีอาการกรอกตาไปมาอย่างรวดเร็ว เมื่อจบระยะ rem แล้วก็ขึ้น ระยะ 4-3-2-1 และ rem ใหม่ เป็นเช่นนี้เรื่อย ๆ ไปจนกว่าเราจะตื่น
ในแต่ละคืนรอบระยะของการนอนหลับจะยาวขึ้นเรื่อย ๆ และจะยาวที่สุดในตอนรุ่งสางหรือก่อนที่เราจะตื่น หากเราตื่นขึ้นมาในระยะ rem เราจะรู้สึกตัวว่าฝัน แต่ถ้าตื่นขึ้นระยะอื่น เรากจะรู้สึกว่าไม่ได้ฝัน
การนอนที่ดีจะต้องมีครบทั้ง 4 ระยะ เพราะระยะ rem ที่เรามีความฝันนั้นสำคัญมาก เพราะจะทำหน้าที่สะสางเอาข้อมูลไร้สาระทั้งหลายที่มันรับเข้าไปออกมาจากจิตใต้สำนึก ดังนั้นบางครั้งเราจึงรู้สึกว่าความฝันมันไม่คล้ายกับความจริง หรือบางครั้งความฝันก็เป็นสิ่งที่เรากังวลอยู่ในชีวิตประจำวัน แต่แต่งแต้มเสียเกินจริง
ผู้เชี่ยวชาญจึงแนะนำว่า อย่าได้เก็บเอาความฝันมากังวลอีก เพราะเท่ากับเราเก็บข้อมูลทิ่สมองพยายามปลดทิ้งใส่กลับเข้าไปในจิตของเราอีก ฝันแล้วก็ให้มันผ่านเลยไป อย่างไรก็ตามความฝันเป็นอะไรที่สำคัญมาก อาจารย์นพ.ชินโอสถ หัศบำเรอ เคยเปรียบการทำงานของสมองของเราว่า คล้ายกับการทำงานของคอมพิวเตอร์แต่เก่งกว่า มันจะ delete ข้อมูลไม่สำคัญทิ้งไปเสียบ้างทุกคืนเวลาเราหลับ เพื่อจะได้มีที่ว่างรับข้อมูลใหม่ ๆ ในวันต่อไป เพื่อที่เวลาคอมพิวเตอร์ประจำตัวเราทำงาน มันจะได้ไม่ hank
หากเราไม่หลับจะเกิดอะไรขึ้น มีงานวิจัยในหนูพบว่า มันจะมีน้ำหนักตัวลด ภูมิต้านทานลดลง และอายุสั้น แต่มีการทดลองในคนที่ไม่ยอมนอน จะพบว่ามีอาการประสาทหลอน หวาดระแวง และอาจจะมีแนวโน้มในการทำร้ายตัวเอง การนอนโดยใช้ยานอนหลับไม่ได้ช่วยอะไรเลย เนื่องจากร่างกายจะถูกบังคับในนอนนิ่ง ๆ ในยามที่ยาออกฤทธิ์ แต่จะไม่มีสะรีระการนอนหลับแบบธรรมชาติ ระยะ 4-3-2-1 และ rem จะแปรปรวน สมองจะไม่ได้พักและไม่ได้สะสางข้อมูลในจิตใต้สำนึก การใช้ยานอนหลับจึงไม่ใช่คำตอบ
ในการบำบัดอาการนอนไม่หลับ ธรรมชาติบำบัดต่างหากที่จะช่วยได้
หากใครนอนไม่หลับแนะนำดังนี้
1. เกี่ยวกับอาหาร
-งดกาแฟและเครื่องดื่มคาเฟอีนทุกประเภท ไม่ว่าจะดื่มตอนไหนก็ควรงด เพราะคาเฟอีนจะไปแย่งที่โดปามีนในสมอง ทำให้สวิทช์ของการนอนหลับถูกทำลายไป
-กินอาหารที่มีวิตามินบี และวิตามินซีสูง ๆ จะได้ไม่เครียดและนอนหลับได้ง่ายขึ้น คนนอนไม่หลับไม่พ้นที่จะต้องกินข้าวกล้อง ผักสดและผลไม้สด
-อย่ากินอาหารมื้อหนัก ๆ ก่อนนอน ควรเลี่ยงอาหารไขมันสูงในมื้อเย็น เพราะอาหารที่ย่อยยากจะก่อกวนการนอนทำให้หลับไม่ดี
2. เกี่ยวกับวิธีคลายเครียด
การนอนไม่หลับเกี่ยวข้องโดยตรงกับความเครียด ในชีวิตประจำวัน ควรมีการคลายเครียดด้วยวิธีออกกำลังกาย จะเดินเร็ว วิ่ง ปั่นจักรยาน เต้นแอโรบิก ว่ายน้ำ อะไรก็ได้ แต่ที่สำคัญต้องทำสม่ำเสมอ เพราะการออกกำลังกายเป็นประจำที่นานพอเช่นมากกว่าครั้งละ 15 นาทีขึ้นไป จะทำให้ฮอร์โมนเอนดอร์ฟินส์ หลั่ง และจะทำให้นอนง่ายขึ้น โยคะเป็นการออกกำลังกายแบบตะวันออกที่ดี เพราะการฝึกโยคะจะทำให้ต่อมไร้ท่อทำงานอย่างสมดุลย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อมเหนือสมองหรือต่อมไพเนียลจะหลั่งฮอร์โมนซีราโตนินออกมาในเวลากลางวัน และผลิตเมลาโต นินออกมาในเวลากลางคืน ซึ่งจะทำให้เรานอนได้อย่างเป็นธรรมชาติมากขึ้น การใช้เสียงเพลงที่เป็นแบบนิวเอจ ซึ่งเป็นเพลงบรรเลง เพลงเบา ๆ เช่นกลุ่มเพลง music therapy, music for relaxation บางครั้งมีเสียงธรรมชาติสอดแทรก จะทำให้คลื่นสมองของเราเป็นแบบอัลฟ่า เกิดความสงบ และนอนหลับได้ง่ายขึ้น
การใช้น้ำมันหอมระเหย เช่น กลิ่นเจราเนียม ลาเวนเดอร์ แซนเดิลวูด คาโมมาย โรสแมรี่ เป็นต้น โดยใช้ผสมน้ำอาบ จุดเป็นเทียนหอม หรือจุดเป็นตะเกียงในห้องที่บ้านน่าจะช่วยสงบจิตใจลงได้ แต่ไม่แนะนำให้ใช้ในห้องนอน
3. เกี่ยวกับความร้อน
การแช่ตัวในอ่างน้ำอุ่นก่อนนอน จะช่วยทำให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย และนอนหลับได้ดีกว่า วิธีการคือเปิดน้ำอุ่น ๆ ลงในอ่างอาบน้ำ แล้วแช่ตัวนาน 15 นาที วิธีนี้จะช่วยทำให้นอนหลับได่ง่ายขึ้น จะหยดน้ำมันหอมระเหยลงไปในอ่างอาบน้ำด้วยก็ยิ่งดี หรือจะใช้วิธีอบสมุนไพรในตอนเย็นจะช่วยให้นอนง่ายกว่าเดิม
4. เกี่ยวกับวิตามินคลายเครียด
แนะนำให้ใช้วิตามินบี 100 (เป็นวิตามินบีหลายตัว แต่ละตัวมีปริมาณ 100 มก.) ครั้งละ 1 เม็ด วันละ 1 ครั้ง และวิตามินซีชีวภาพ (1000 มก.) ครั้งละ 2 เม็ดวันละ 1 ครั้ง วิตามินบีจะช่วยทำให้สื่อประสาทในสมองทำงานได้ดีขึ้น วิตามินซีจะช่วยทำให้การหลั่งของฮอร์โมนจากต่อมหมวกไต ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับความเครียดทำงานได้ดีขึ้น ทำให้เราทนกับความเครียดจากการงานได้ดีกว่าเดิม และพักหลับได้ในเวลากลางคืน
5. เกี่ยวกับสมุนไพรช่วยนอน
มีสมุนไพรหลายตัวที่สามารถช่วยทำให้หลับเป็นธรรมชาติได้ดีกว่ายานอนหลับ แถมดีกว่าตรงที่ไม่เสพย์ติด เช่น
- ดอกไม้จีน (ที่ใช้ใส่แกงจืดนั่นแหละ) ให้เอามา 15 มก. หรือสักกำมือเอามาต้มน้ำให้เดือด เคี่ยวสัก 10 นาที แล้วดื่มเป็นชาก่อนนอน จะช่วยทำให้นอนหลับได้ดี
- ใบขี้เหล็ก แต่ใบขี้เหล็กมีพิษ ต้องต้มน้ำทิ้งแบบที่เราเอาทำแกงก่อนจึงจะใช้ได้ อย่าใช้ใบป่นใส่แคบซูล เพราะอาจจะเสี่ยงต่อตับอักเสบ
- เมล็ดชุมเห็ด เป็นยาไทยที่ใช้แก้อาการนอนไม่หลับมานานแล้ว แต่ต้องแก้ด้วยรากระย่อมจึงจะปลอดภัย หากสนใจหาซื้อมาชงกินเป็นชา หลังอาหารเย็นได้จากบัลวี คนกินแล้วชอบใจ เพราะตื่นมาแล้วสดชื่นราวกับหลับได้เป็นธรรมชาติ
- ยาหอมกล่อมอารมณ์ เป็นยาในตำรับของ มรว.สะอาด ทินกร ที่ใช้มานานกว่าร้อยปี เป็นส่วนผสมของเครื่องเทศ เช่น แก่นจันทน์เทศ อบเชย ฯลฯ ยาหอมชนิดนี้กินแล้วทำให้ใจสบาย แนะนำให้กินครั้งละ 5 เม็ด วันละ 2 ครั้ง มีคนกินแล้วบอกว่าไม่อยากทะเลาะกับใคร อะไร ๆ ที่เป็นปัญหาก็ปล่อยวางได้ง่าย ทำให้ไม่เครียดแล้วนอนหลับได้ดีขึ้น
- สมุนไพรฝรั่งอย่าง valerian ที่มีขายตามร้านขายยาเพื่อสุขภาพก็ใช้ได้เช่นเดียวกัน
6.เซลล์บำบัด
เซลล์บำบัดคือการใช้เซลล์ซ่อมเซลล์ ผลิตภัณฑ์จากเยอรมันเป็นเซลล์บำบัดชนิดกิน ช่วยซ่อมสร้างต่อมไพเนียล ช่วยเรียกความอ่อนเยาว์ของต่อม ไพเนียลขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง
สรุปแล้วการจัดการกับปัญหานอนไม่หลับ หากอยากใช้วิธีการทางธรรมชาติ จะเลือกใช้วิธีใดวิธีหนึ่งเห็นจะยาก ต้องใช้แบบองค์รวม คือใช้ทุกวิธีช่วยกันนั่นแหละจึงจะเห็นผล หากใครใช้ยานอนหลับมาก่อน หรือติดยานอนหลับไปแล้ว การใช้วิธีการทางธรรมชาติจะยากกว่า แต่หากอยากงดยานอนหลับให้ได้ ก็ต้องใช้วิธีการฝังเข็ม นวดคลายเครียดร่วมด้วยจึงจะเห็นผล
ประวัติ ส่วนตัว ข่าว บันเทิง รูป กวนๆ รูปน่ารัก แชท หา เพื่อน และเรื่อง คัน ปาก อยากคุย