รีสอร์ท The Scenery Resort ราชบุรี
ถ้าพูดถึงรีสอร์ทที่จองยากมากที่สุดแห่งหนึ่งที่บางครั้งอาจจะต้องจองล่วง หน้ากันหลายๆเดือนหรือจองข้ามปีในช่วงเทศกาล หลายๆคนคงนึกถึงรีสอร์ทแห่งนี้ในอำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรีที่ชื่อว่า The Scenery Resort หลังจากชมรีวิวของที่นี่มาหลายครั้ง ในที่สุดผมมีโอกาสได้ไปเยือน The Scenery ในช่วงฤดูฝนของเดือนกรกฎาคมหลังจากที่จองห้องพักมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว พอได้เข้าพัก ผมถึงเข้าใจว่าทำไมรีสอร์ทแห่งนี้ถึงมีแขกเข้าพักตลอด ไม่ใช่เพียงเพราะว่าห้องพักจำนวนน้อยที่มีเพียง 7 ห้องพัก แต่ด้วยบรรยากาศธรรมชาติ มีลำธารสายเล็กๆที่มีน้ำใสๆไหลผ่าน ทุ่งหญ้าเขียวสบายตา ฝูงแกะที่คอยต้อนรับนักท่องเที่ยวที่มาเยือนและที่สำคัญคือ ห้องพักสไตล์เมอร์ดิเตอเรเนียนที่ชวนน่าพักผ่อน สิ่งเหล่านี้คือเสน่ห์ของ The Scenery ที่หาได้ยากในรีสอร์ทอื่น ถึงแม้ที่นี่จะเป็นรีสอร์ทเล็กๆ แต่พนักงานมีใจบริการที่ดีเยี่ยม ไม่ต่างจากรีสอร์ทหรูตามเมืองใหญ่ๆ
ห้องพักที่นี่ทั้ง 7ห้องมีชื่อเรียกตามชื่อของพันธุ์หญ้า พันธุ์แกะและพันธุ์ถั่ว นอกจากบรรยากาศในโซนห้องพักที่น่าพักผ่อน เงียบสงบแล้ว ยังมีกิจกรรมหลายๆอย่างในรีสอร์ทไม่ว่าจะเป็นให้อาหารแกะ ยิงธนู เดินเล่น แช่อ่าง Jacuzzi ข้างลำธาร ใช้บริการห้องอบซาวน่า หรือเล่นน้ำในลำธาร
พื้นที่ในรีสอร์ทแบ่งเป็นส่วนห้องอาหาร ส่วนของสนามหญ้า และโซนที่พักซึ่งอยู่ด้านใน ในภาพนี้เป็นส่วนของอาคารห้องอาหารที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่ ติดกับสนามหญ้าและคอกแกะซึ่งอยู่ด้านหน้าของรีสอร์ท
ส่วนห้องอาหารและสนามหญ้าด้านหน้า จะเปิดบริการให้แขกทั่วไปมาทานอาหาร หรือทำกิจกรรมของทางรีสอร์ทเช่นให้อาหารแกะ ยิงธนู แต่ส่วนของห้องพักจะเป็นโซนส่วนตัว เฉพาะแขกที่เข้าพัก ทำให้บรรยากาศด้านใน เงียบสงบ การจัดสวน ดูแลต้นไม้ทำได้ดีมากๆ
การออกแบบที่นี่มักมีรายละเอียดเล็กๆน้อยๆ ในภาพเป็นตู้ไปรษณีย์ที่อยู่หน้าห้องฮามาต้า น่ารักดี
เก้าอี้นั่งสีแดงตัดกับสนามหญ้าสีเขียวๆ มีอยู่หลายๆจุดในรีสอร์ท คงเป็นสัญลักษณ์อีกอย่างหนึ่งของรีสอร์ทที่ใครไปใครมาต้องมาถ่ายภาพที่ เก้าอี้เหล่านี้
พาไปชมห้องพักแบบแรกที่เข้าพัก ห้องฮามาต้า ห้องที่อยู่ลึกสุดติดกับลำธาร
เสน่ห์อย่างแรกคือวิวจากห้องนอนที่เห็นทุ่งหญ้ากว้าง ทำให้บรรยากาศในห้องน่าพักผ่อน
ตัวห้องพักจากด้านนอกรูปทรงแปลกตา น่ารัก มีบันไดขึ้นไปชั้นดาดฟ้า เสียดายที่ห้องนี้บนดาดฟ้าไม่มีหลังคาเหมือนห้องอื่นๆ ทำให้ไม่สามารถนั่งเล่นช่วงที่แดดออกหรือฝนตก เสน่ห์ถัดมาของห้องนี้คือส่วนของห้องน้ำ ที่มีทางเชื่อมต่อกับห้องนอนเหมือนเป็นอุโมงค์เล็กๆ ออกแบบได้แปลก และสวยงามมาก บริเวณอ่างล้างหน้า กระจกหน้าอ่างเป็นหน้าต่างในตัว เปิดชมวิวด้านนอกได้
และนี่คือจุดเด่นที่สำคัญของห้องนี้ อ่างอาบน้ำขนาดใหญ่ ไฟที่ผนังทำให้ห้องน้ำที่นี่โรแมนติกมาก
อ่าง jacuzzi บรรยากาศดีข้างลำธาร ถึงแม้ที่นี่จะไม่มีสระว่ายน้ำแต่ควรเตรียมชุดว่ายน้ำมาด้วยนะ ในกรณีที่ใช้บริการแช่อ่าง Jacuzzi หรืออบซาวน่า
ส่วนของห้องอาหารของรีสอร์ทที่ชื่อว่า Honey Scene อาหารเช้าและอาหารทุกมื้อสามารถมาทานที่นี่ เป็นห้องอาหารที่ออกแบบได้ดี น่านั่งและวิวสวยมาก พาไปชมห้องแบบที่สอง ห้องแพงโกล่า ห้องนี้จะอยู่ลึกติดกับห้องฮามาต้าแต่จะกว้างกว่า มีชุดรับแขกไว้นั่งเล่นนอนเล่น มี LCD TV เครื่องเล่น DVD และห้องนี้มี iPod dock เพิ่มมาด้วย วิวจากห้องนอนสวยพอๆกับห้องฮามาต้า สามารถนอนชมวิวจากเตียงนอนได้เลย ประตูที่เห็นเป็นประตูเข้าไปยังห้องน้ำ ภายในห้องน้ำ ยังคงออกแบบได้น่าใช้ ห้องนี้อ่างล้างหน้ากับโถสุขภัณฑ์อยู่ไม่ไกลจากห้องนอนถัดจากห้องน้ำจะเห็นเป็นทางเดินเพื่อไปยังส่วนของอ่างอาบน้ำและส่วน ฝักบัวฝนตก และนี่คือจุดเด่นที่สำคัญของห้องนี้ อ่างอาบน้ำบรรยากาศดี อ่างนี้จะเล็กกว่าห้อง ฮามาต้าแต่ผมว่าอ่างห้องแพงโกล่าขนาดกำลังดีและมีหน้าต่างไว้ชมวิว ผมลองนับจำนวนหลอดไฟที่ผนัง 19ดวงเท่ากับห้องฮามาต้าพอดี
ถ้ามาเป็นคู่ สามารถเปิดหน้าต่างที่โซฟาคุยกับอีกคนที่แช่น้ำอยู่ในห้องน้ำได้เลย
ต่อไปผมพาไปชมดาดฟ้า สำหรับห้องนี้มีหลังคา เตียงนอนเล็กๆ และเปลญวณ บรรยากาศดีมากๆ ผมใช้เวลาส่วนใหญ่บนเปลญวน ยิ่งตอนฝนตก ลมเย็นๆยิ่งได้บรรยากาศ
โต๊ะอาหารที่อยู่บนดาดฟ้า บรรยากาศดี ที่จริงแล้วดาดฟ้าห้องแพงโกล่า อยู่ใกล้กับทางเดินในรีสอร์ท ถ้าใครเดินผ่านไปมาก็จะมองเห็นบนดาดฟ้า แต่เนื่องด้วยมีห้องพักเพียง 7 ห้อง เลยไม่ค่อยมีใครผ่านไปมา เป็นส่วนตัวดี
ส่งท้ายด้วย ห้องน้ำที่ห้องอาหาร ออกแบบได้ดี สวยงาม น่าใช้ จร้า
ประวัติ ส่วนตัว ข่าว บันเทิง รูป กวนๆ รูปน่ารัก แชท หา เพื่อน และเรื่อง คัน ปาก อยากคุย