น่าสนใจ

วันอังคารที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

ใช้รถขับหน้าให้ทนทาน

ใช้รถขับหน้าให้ทนทาน


ใช้งานอย่างถูกวิธี
รถยนต์ในปัจจุบันนอกจากปิกอัพ รถยนต์ยุโรปรุ่นใหญ่ และรถสปอร์ตราคาแพง
ส่วนใหญ่ใช้ระบบขับเคลื่อนล้อหน้ากันเกือบหมดแล้ว
เพราะมีข้อดีคือ ต้นทุนการผลิตต่ำ ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง และห้องโดยสารกว้างขวาง

เพลาขับในระบบขับเคลื่อนล้อหน้าต้องทำหน้าที่ในการขับเคลื่อนและต้องเลี้ยวได้
แม้การพัฒนาด้านเทคโนโลยีได้ทำให้เพลาขับเคลื่อนล้อหน้ามีความทนทานมากขึ้น
แต่การใช้งานอย่างถูกวิธีก็สำคัญในการยืดอายุการใช้งาน

รถยนต์ขับเคลื่อนล้อหน้าส่วนใหญ่ มีตำแหน่งการวางของเครื่องยนต์แบบวางขวาง ทั้งบล็อก 4 สูบเรียง
หรือบล็อกวี ต่างจากรถยนต์ขับเคลื่อนล้อหลังที่มักวางเครื่องยนต์ตามยาว
อย่างไรก็ตาม มีรถยนต์บางยี่ห้อ เช่น ออดี้ ซูบารุ ฯลฯ ที่เป็นรถยนต์ขับเคลื่อนล้อหน้าแต่วางเครื่องยนต์ตามยาว

สำหรับรถยนต์ขับเคลื่อน 4 ล้อบางรุ่น เช่น โตโยต้า ราฟ4 ฮอนด้า ซีอาร์-วี หรือมิตซูบิชิ แลนเซอร์ อีโวลูชั่น
แม้เป็นรถยนต์ขับเคลื่อน 4 ล้อ แต่จากการที่พัฒนามาจากรถยนต์ขับเคลื่อนล้อหน้า
ทำให้ตำแหน่งการวางของเครื่องยนต์ ยังเป็นแบบวางขวาง


ทำไมถึงต้องเปลี่ยนแปลง
สาเหตุหลักที่ทำให้ระบบขับเคลื่อนล้อหน้าได้รับความนิยมจากผู้ผลิตรถยนต์มีหลายสาเหตุหลัก คือ
ลดการสูญเสียกำลังที่ถ่ายทอดออกจากเครื่องยนต์ เพราะระบบขับเคลื่อนล้อหลังต้องมีเพลากลางท่อนยาว
ในขณะที่ระบบขับเคลื่อนล้อหน้าไม่ต้องมีเพลากลาง จึงทำให้มีการส่งกำลังอย่างฉับไว
และช่วยให้ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง และยังลดต้นทุนการผลิต
เพราะในรถยนต์ขับเคลื่อนล้อหน้ามีชิ้นส่วนไม่มากเท่ากับรถยนต์ขับเคลื่อนล้อหลัง
จึงไม่ใช่แค่ลดต้นทุนได้แค่เพลากลาง แต่ยังมีอีกหลายชิ้นส่วนที่เกี่ยวข้อง ซึ่งสามารถลดต้นทุนลงได้


เพลาขับไม่ทนจริงหรือ
เพลาขับเป็นประเด็นหลักในความกังวลเรื่องความทนทาน เพราะต้องทำหน้าที่ทั้งขับเคลื่อนและเลี้ยวตาม
เพลาขับในยุคแรกมักไม่ทนทาน จนเกิดความเชื่อที่ไม่ดีต่อเนื่องกันมา
แต่ในปัจจุบันมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจนทำให้เพลาขับมีอายุการใช้งานมากขึ้นกว่า 100,000 กิโลเมตรแล้ว

หากมีการดูแลรักษาที่ถูกต้องและใช้งานอย่างถูกวิธี
เพลาขับจะมีอายุการใช้งานเฉลี่ยเกิน 100,000 กิโลเมตรแน่นอน
และรถสปอร์ตในระดับ 200 แรงม้า ที่จำหน่ายในตลาดหลายรุ่นก็ใช้ระบบขับเคลื่อนล้อหน้า เช่น
ฮอนด้า พรีลูด หรือโตโยต้า เซลิกา ย่อมแสดงให้เห็นถึงความทนทานของเพลาขับหน้า


ตรวจสอบเพื่อความมั่นใจ
ภายในข้อต่ออ่อนตรงหัวเพลา 2 จุดต่อเพลา 1 แท่ง มีส่วนประกอบของลูกปืน เสื้อเพลา และเพลา
โดยถูกหล่อลื่นด้วยจาระบี และถูกห่อหุ้มเพื่อป้องกันไม่ให้ฝุ่นเข้าด้วยยางหุ้มเพลา
ซึ่งจุดนี้จำเป็นต้องดูแลอย่างสม่ำเสมอ ในสภาพการใช้งานปรกติ ยางหุ้มเพลามีอายุการใช้งานเฉลี่ย
50,000-100,000 กิโลเมตร และถ้าไม่พบการฉีกขาดควรถอดเพลาออกมาทำความสะอาดทุก 100,000 กิโลเมตร
เปลี่ยนจาระบีชนิดเฉพาะและใช้ยางหุ้มเพลาคุณภาพสูง

หากมีการฉีกขาดของยางหุ้มเพลา โดยเฉพาะตัวนอกที่จะต้องเลี้ยวตามล้อบ่อย ๆ ต้องซ่อมแซมทันที
หากปล่อยทิ้งไว้ความเสียหายอาจลุกลามจนต้องเปลี่ยนเพลาขับทั้งแท่ง
ตามที่ได้ยินเสียงดังก๊อก ๆ ขณะเลี้ยวของเพลาขับเคลื่อนล้อหน้า


ดูแลถูกต้อง ลดค่าใช้จ่าย
วิธีปฏิบัติเ พื่อยืดอายุเพลาขับเคลื่อนล้อหน้าคือ ออกตัวเมื่อล้อตั้งตรงและขับด้วยความนุ่มนวล
แล้วจึงค่อยเพิ่มความเร็ว การออกตัวด้วยความรุนแรง ทำให้เพลาขับมีอายุการใช้งานสั้นลง

ถ้าใช้ระบบเกียร์อัตโนมัติ
ควรเหยียบเบรกก่อนเข้าเกียร์เดินหน้า หรือถอยหลังทุกครั้ง
เพื่อลดแรงกระตุกหรือกระชากของเครื่องยนต์ที่ส่งไปยังเพลาขับ

ระหว่างการขับเมื่อผิวถนนไม่เรียบ ควรลดความเร็วลงอย่างช้า ๆ
เพราะการเบรกที่รุนแรงมีส่วนทำให้เพลาขับมีอายุการใช้งานสั้นลง

การเลี้ยวมุมแคบและกลับรถควรใช้ความเร็วต่ำที่สุด
และหลีกเลี่ยงการขับเคลื่อนพร้อมการเลี้ยวเป็นมุมแคบอย่างต่อเนื่องเพื่อลดภาระของเพลาขับ

การเข้า-ออกจากที่จอดรถริมทางเดินเท้าไม่ควรขับในขณะที่หมุนพวงมาลัยสุด
เพราะเมื่อเพลาขับหมุนพร้อมกับหักเลี้ยวสุดจะทำให้อายุการใช้งานสั้นลง
ถ้ารู้ตัวว่าหมุนสุด ให้คืนพวงมาลัยเล็กน้อย แล้วค่อยเลี้ยวและขับต่อไปด้วยความนุ่มนวล


ที่มา นิตยสาร รถวันนี้