เรื่องบุหรี่ไฟฟ้า ระหว่างผู้สูบกับผู้ขายบุหรีมวน
มีประสบการณ์ตรงมาร่วมแบ่งปันครับ :ความคิดเห็น1
ผมเริ่มสูบบุหรี่มาตั้งแต่อายุ 16 จนกระทั่งอายุ 36 กว่า ๆ จะเข้า 37 ก็คิดว่าอยากจะเลิกสูบบุหรี่แล้ว
ประกอบกับเพื่อนคนนึงแนะนำบุหรี่ไฟฟ้า เพราะตัวเขาเองก็เลิกได้เพราะมัน ทั้งที่เขาสูบวันละ 2 ซอง
ผมเลยลองซื้อมาใช้ตั้งแต่วันที่ 18 มีนาคม 54 ตั้งแต่ได้มา ผมก็ไม่ได้สูบบหรี่จริงเลย
ตั้งแต่วันนั้นจนถึงตอนนี้ ผมเลิกสูบบุหรี่จริงมาได้ 34 วันแล้วนะ สุขภาพก็ดีขึ้น
อาการไอหนัก ๆ หายไปเลย เสมหะน้อยลง 90% สัมผัสด้านกลิ่นและรสก็ดีขึ้น
ปกติก่อนหน้านี้ผมสูบมาร์ลโบโร่ ไลท์ วันละประมาณ 12 - 15 มวน
พอสูบบุหรี่ไฟฟ้า นิโคตินเหลว 1 ขวด 10 มล. ใช้อยู่ 2 อาทิตย์
ผลคือ จ่ายเงินน้อยลง สภาพร่างกายดีขึ้น ทานอาหารเยอะขึ้น น้ำหนักขึ้นนิดหน่อย
และเลิกบุหรี่จริงได้ ไม่สูบบุหรี่ไฟฟ้าก็ได้ คือไม่จำเป็นต้องมี ก็ใช้ชีวิตได้ตามปกติ
ไม่มีอาการกระวนกระวายอยากสูบบุหรี่ มีก็สูบ ไม่มีก็ไม่สูบ ทุกวันนี้ก็เหมือนสูบเล่น
ถ้าหมดนิโคตินเหลวชุดนี้ ผมก็คงสั่ง อีลิควิดแบบไม่มีนิโคตินมาใช้
วันนึง เมื่อผมเบื่อ ก็คงเลิกบุหรี่ไฟฟ้าไปด้วย บุหรี่ไฟฟ้ามันน่าเบื่อตรงที่ ต้องเติมน้ำยา
ต้องชาร์จแบต อันเบ้อเริ่มเทิ่ม ควักมาสูบทีคนก็มองแบบแปลกประหลาด บางทีน้ำยาเลอะมือ
สารพัดข้อเสียที่น่าเบื่อของมันก็เยอะครับ
แต่ข้อดีข้อเดียวสำหรับผมก็คือ "มันทำให้ผมที่สูบบุหรี่มา 20 ปี สามารถเลิกสูบบุหรี่จริงได้อย่างง่ายดาย" .
โดย:บางโพสจากพันทิพย์
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ความคิดเห็น2
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
สารพิษน้อยกว่า ควันก็ไม่มี ไม่รบกวนคนรอบข้าง
มีแค่นิโคตินเท่านั้น
ตัดมาจากข่าว อย.เคยบอกว่า " จากข้อมูลของบุหรี่ดังกล่าวระบุว่าบรรจุนิโคตินแท่งละ 18 มิลลิกรัม ขณะที่บุหรี่ทั่วไป 1 มวนจะมีนิโคติน 1.2 มิลลิกรัม ซึ่งนิโคตินเป็นสารเสพติดที่มีฤทธิ์สูงเท่าเฮโรอีนและโคเคน !!!!! "
อันที่จริงแล้วเป็นแบบนี้ครับ
เรื่องปริมาณนิโคติน บุหรี่ไฟฟ้ามีให้เลือกหลายระดับ ขึ้นอยู่กับว่าติดบุหรี่มากหรือน้อย สูงสุด 18 มิลลิกรัม (ถ้าเป็นแบบไปป์จะสูงกว่านี้ เพราะแท่งบรรจุจะใหญ่กว่าปกติ 4 เท่า) ลดลงไปจนถึง 6 มิลลิกรัม ซึ่งน้อยที่สุด
และน้อยกว่านี้ สำหรับคนที่เลิกบุหรี่ได้เด็ดขาดแล้ว คือ 0 มิลลิกรัม เอาไว้ดูดเล่นๆ สูบแล้วไม่ติด (มีประโยชน์สำหรับคนที่ติดบุหรี่ครับ แต่ผมไม่อธิบาย และอย่าไปกังวลว่าคนที่ไม่ติดบุหรี่จะเอามาสูบเล่นครับ)
แต่ละแท่ง จะมีปริมาณน้ำยาประมาณ 1 มิลลิลิตร โดย 80-90% คือ Propylene Glycol และที่เหลือเป็นน้ำและส่วนประกอบอื่นๆ
ปริมาณน้ำยาที่บรรจุ จะขึ้นอยู่กับขนาด รูปทรง และรุ่นของบุหรี่ไฟฟ้า
แต่ผมจะพูดถึงแบบทั่วไป ซึ่งบรรจุน้ำยา 1 มิลลิลิตรนะครับ
คำนวน
แท่งนิโคติน 1 แท่ง (หรือ 1 มิลลิลิตร) ผู้ขายบอกว่าสูบได้ประมาณ 200-300 ครั้ง ผมขอเป็น 200 ครั้งก็แล้วกัน ในขณะที่บุหรี่ 1 มวน จะสูบหมดภายใน 10 ครั้ง
เท่ากับว่า 1 แท่งนิโคติน เท่ากับบุหรี่ 20 มวน (ผู้ขายบางรายอ้างว่า 1 แท่งนิโคติน ประมาณบุหรี่ 1-2 ซอง) ถ้าสูบบุหรี่ไฟฟ้าหมด 1 แท่ง สมมุติว่าผมใช้แบบสูงสุด จะได้รับนิโคติน 18 มิลลิกรัม
ส่วนบุหรี่จริง 1 มวน มีนิโคติน 1.2 มิลลิกรัม ดังนั้น 1 ซองหรือ 20 มวน จะได้รับนิโคติน 1.2 x 20 = 24 มิลลิกรัม
บุหรี่ 1 ซอง มีนิโคตินมากกว่าแท่งนิโคติน 1 แท่งครับ
ดังนั้น จำนวนนิโคตินที่ได้รับ จากการสูดเข้าปอด 1 ครั้ง
จากบุหรี่ไฟฟ้า = 18/200 = 0.09 มก.
จากบุหรี่ = 24/200 = 0.12 มก.
และถ้าเราสูบด้วยแท่งนิโคตินแบบ Low ที่มีนิโคตินเพียง 6 มิลลิกรัม เท่ากับว่า บุหรี่ 1 ซอง เท่ากับแท่งนิโคติน 4 แท่ง
ตอนนี้ ก็อยู่ที่ผู้สูบ(บุหรี่ไฟฟ้า) ที่จะต้องคอยควบคุมจำนวนแท่งนิโคตินที่จะใช้ในแต่ละวัน (ผู้ขายบางรายแนะนำให้ใช้วันละไม่เกิน 2 ใส้) ความเสี่ยงจึงอยู่ในความควบคุมของผู้เสพเท่านั้น
ที่น่าตกใจคือ ทำไมหน่วยงานรัฐของเราบิดเบือนข้อมูลกับประชาชนได้ขนาดนี้
เครดิตข้อมูลจาก http://www.mrpalm.com/board/view_board.php?id=104690
จากคุณ : qooqung
เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 02:20:42
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
จากรัฐบาลที่เป็นเจ้าของโรงงานยาสูบ
รัฐมนตรี ช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข สั่งสำนักงานสาธารณสุขแนวชายแดนสกัดการนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้า ชี้เป็นภัยอันตรายเนื่องจากมีนิโคตินซึ่งเป็นสารเสพติดที่มีฤทธิ์สูงเท่า เฮโรอีนและโคเคน เสี่ยงหัวใจวายสูงกว่าคนทั่วไป 3 เท่าตัว ชี้ผู้ลักลอบนำเข้ามีความผิดตามกฎหมาย 3 ฉบับ มีโทษจำคุก 5–10 ปี และปรับหลายหมื่นบาท
ทั้งนี้ การปล่อยให้มีการใช้บุหรี่ไฟฟ้า จะเกิดผลเสียหลายประการ อย่างแรกคือ ทำให้เด็ก เยาวชน และประชาชนสูบบุหรี่มากขึ้น เพราะเข้าใจผิดว่าเป็นบุหรี่ที่ปลอดภัยต่อสุขภาพ
2. ทำให้ผู้ที่เลิกสูบบุหรี่แล้วหันมาสูบมากขึ้น เนื่องจากกลิ่นไม่เหม็นรบกวนผู้อื่น และเป็นผลจากการติดนิโคตินอย่างแรง
3. สารนิโคตินเป็นสารเสพติดที่มีฤทธิ์เสพติดสูง เท่ากับเฮโรอีนและโคเคน เป็นสาเหตุทำให้เกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด และ
4.บุหรี่ไฟฟ้าทำให้ไม่สามารถควบคุมปริมาณสารนิโคตินได้ แตกต่างจากผลิตภัณฑ์ช่วยเลิกบุหรี่ทางการแพทย์อื่นๆ เช่น แผ่นแปะและหมากฝรั่งนิโคติน ที่มีปริมาณนิโคตินแน่นอน และใช้ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ นางพรรณสิริกล่าว
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------