น่าสนใจ

วันอังคารที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2558

อันตรายจากโรคนอนกรน

แหล่งข้อมูลจากเว็บ ไทยรัฐ นะครับ.
เหตุการณ์เหล่านี้เคยเกิดขึ้นกับคุณบ้างหรือไม่
คนรอบข้างบอกคุณว่า...คุณนอนกรนเสียงดัง...ต้องสะกิดปลุกกลางดึก...เวลาไปเที่ยวเพื่อนล้อว่าคุณกรนเสียงดัง ส่วนมากมักปฏิเสธว่าไม่ได้นอนกรนจนบางครั้งต้องแอบไปนอนคนเดียวเพื่อไม่ให้คนรอบข้างรู้สึกไม่ดี ความจริงแล้วการนอนกรนก่อให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพและเป็นสัญญาณอันตรายที่อาจบ่งบอกว่าคุณกําลังมีปัญหาสุขภาพ ซึ่งผลจากการนอนกรนจะนําไปสู่การเกิดโรคนอนกรนและหยุดหายใจขณะหลับได้
โรคนอนกรนและหยุดหายใจขณะหลับ Obstructive Sleep Apnea (OSA) คืออะไร
ทั้งนี้ โรคนอนกรนและหยุดหายใจขณะหลับคือ การที่ทางเดินหายใจส่วนต้นตีบแคบลงขณะหลับ โดยเสียงกรนจะเกิดขึ้นขณะหายใจ เพราะอากาศจะเดินทางผ่านที่แคบทําให้เกิดเสียงดัง ทางเดินหายใจที่เกิดตีบแคบขณะหลับนั้น จะตั้งอยู่หลังจมูกจนถึงทางเปิดกล่องเสียง มีลักษณะเหมือนท่อยางยืดหยุ่นที่ไม่มีกระดูกและเป็นโครงแข็ง

โรคนอนกรนและหยุดหายใจเกิดขึ้นเฉพาะขณะหลับเท่านั้น เพราะขณะตื่นสมองจะสั่งงานเต็มที่ให้กล้ามเนื้อบริเวณนั้น ขยายทางเดินหายใจส่วนต้นเต็มที่ ทําให้พูด หายใจและร้องเพลงผ่านทางเดินหายใจนี้ได้ แต่เมื่อหลับและสมองกําลังพักผ่อน ทําให้กล้ามเนื้อบริเวณนี้ทํางานน้อยลง ท่อทางเดินหายใจส่วนต้นก็จะฟีบเข้าหากันเหมือนการดูดหลอดกาแฟ
อย่างไรก็ดี อาการนี้ไม่เกิดกับทุกคน หากทางเดินหายใจส่วนต้นของคนนั้นกว้างก็จะแคบลงเล็กน้อย ซึ่งไม่เป็นอันตราย แต่คนที่เป็นโรคนอนกรนและหยุดหายใจนั้น มักมีทางเดินหายใจส่วนต้นแคบเล็ก ซึ่งอาจตีบแคบจนปิดสนิท ทําให้ไม่สามารถหายใจเอาอากาศผ่านไปสู่ปอดได้และเกิดผลเสียตามมาหลายอย่าง เช่น ทําให้ออกซิเจนในเลือดต่ําเนื่องจากขาดอากาศหายใจ จึงต้องพยายามหายใจแรงขึ้นเพื่อเปิดทางเดินหายใจนี้ เมื่อสมองถูกกระตุ้นให้ตื่นบ่อยๆ ทําให้หลับไม่ลึกและรู้สึกง่วงนอนตอนกลางวัน เพลียและไม่สดชื่นเหมือนพักผ่อนไม่เพียงพอ ส่งผลกระทบอื่นๆ ตามมา เช่น ประสิทธิภาพการทํางานลดลง ความจําไม่ดี หงุดหงิดง่าย ง่วงหลับใน และหากทิ้งไว้ในระยะยาวโดยไม่ได้รักษาอาจนําไปสู่โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง อัมพฤกษ์ อัมพาต และโรคซึมเศร้า


เห็นไหมล่ะคะ ผลที่ตามมามีมากมายหลายอย่างเลยทีเดียว
ส่วนสาเหตุของทางเดินหายใจส่วนต้นแคบเกิดได้จากหลายปัจจัยร่วมกัน เช่น โครงสร้างใบหน้าขากรรไกรเล็ก หรือมีลิ้นใหญ่ ต่อมทอนซิลโต และที่สําคัญคือ ความอ้วนซึ่งทําให้มีไขมันสะสมบริเวณคอ โรคนี้สามารถเกิดขึ้นได้ทุกวัย โดยในเด็กมักเกิดจากมีต่อมทอนซิลโต หรือเกิดจากโครงสร้างใบหน้า ส่วนในผู้ใหญ่มักพบในผู้ชายมากกว่า เนื่องจากฮอร์โมนเพศหญิงจะช่วยป้องกันอยู่ แต่เมื่อเข้าสู่วัยทอง ผู้หญิงจะมีโอกาสเสี่ยงมาก
หากคุณผู้อ่านสงสัยว่ามีอาการของโรคนอนกรนและหยุดหายใจขณะหลับควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจรักษา ซึ่งในผู้ใหญ่สามารถสังเกตได้ดังนี้
1. นอนกรนเสียงดังเป็นประจํา
2. หยุดหายใจขณะนอนหลับ หายใจแรงๆ และเสียงดังเป็นพักๆ สลับกับนิ่งเงียบแล้วหายใจเฮือกเหมือน จะสําลักน้ําลาย บางครั้งผู้ป่วยจะตื่นขึ้นมารู้สึกเหมือนหายใจไม่ออก
3. ง่วงนอนกลางวัน บางครั้งเผลอหลับไประหว่างประชุม
ผลกระทบที่สําคัญของโรคนี้คือ ทําให้ไม่มีสมาธิในการทํางาน ขี้ลืม หงุดหงิดง่าย วิตกจริต หรือ ซึมเศร้า ตื่นนอนตอนเช้าพบว่าปวดศีรษะ คลื่นไส้และปัสสาวะบ่อยช่วงนอนหลับกลางคืน ผู้ชายอาจมีปัญหาเรื่องสมรรถภาพทางเพศลดลง ส่วนผู้หญิงอาจมีปัญหาประจําเดือนมาไม่สม่ําเสมอ ทั้งนี้ อาจมีอาการแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับแต่ละคน และส่วนมากผู้ป่วยมักไม่รู้ตัวว่าเป็นต้องอาศัยคนรอบข้างสังเกตอาการ การตรวจวินิจฉัยของแพทย์จะเกิดในห้องปฏิบัติการการนอนหลับ (Sleep Laboratory) โดยจะติดอุปกรณ์หลายชนิดเพื่อวัดคลื่นสมอง ระดับออกซิเจน และลมหายใจขณะนอนหลับ เป็นต้น ส่วนวิธีการรักษาโรคนอนกรนและหยุดหายใจขณะหลับ แพทย์จะรักษาตามความรุนแรงของอาการของผู้ป่วยแต่ละรายด้วยวิธีการดังต่อไปนี้
วิธีการที่ 1 ใช้เครื่องช่วยหายใจแรงดันบวก หรือ ซีแพ็พ (CPAP)
เป็นการรักษาประสิทธิภาพสูงเพื่อขยายและถ่างทางเดินหายใจส่วนต้นไม่ให้ตีบแคบขณะนอนหลับ โดยตัวเครื่องจะเป่าลมผ่านท่อสายยางไปสู่จมูกผู้ป่วยผ่านจากหน้ากาก และเนื่องจากผู้ป่วยแต่ละรายต้องการแรงดันที่แตกต่างกันเจ้าหน้าที่ห้องปฏิบัติการจะค่อยๆ ปรับแรงดันที่เหมาะสมจนไม่มีอาการกรนหรือหยุดหายใจให้แต่ละคน ผลกระทบจากการใช้เครื่องช่วยหายใจแรงดันบวก อาจก่อให้เกิดอาการคัดจมูก ปากแห้ง คอแห้ง เป็นต้น เมื่อเริ่มต้นใช้เครื่องไม่ควรละทิ้งเครื่อง เพราะการใส่เครื่องในช่วงแรกอาจยังไม่คุ้น ต้องอาศัยการปรับตัวให้ชินกับเครื่องระยะหนึ่งแล้วจะรู้สึกดีและหลับได้ดีขึ้น การรักษาด้วยเครื่องซีแพ็พถือเป็นมาตรฐานการรักษาโรคนอนกรนหยุดหายใจขณะหลับ เนื่องจากมีประสิทธิภาพสูงในผู้ป่วยเกือบทุกราย แต่จะเป็นผลสําเร็จในระยะยาวหรือไม่ ขึ้นอยู่กับการยอมรับของผู้ป่วย
วิธีการที่ 2 การใส่ฟันยาง หรือ Oral Appliance ผู้ป่วยบางราย
อาจรักษาได้ผลดีด้วยการใส่ฟันยาง การใส่ฟันยางนี้ ทันตแพทย์จะเป็นผู้ตรวจและประดิษฐ์ให้ผู้ป่วยแต่ละคน จะได้ผลดีในผู้ป่วยที่มีระดับโรคของเล็กน้อยและปานกลาง แต่ผู้ป่วยที่มีระดับของโรครุนแรงมักไม่ได้ผลเท่าที่ควร ประโยชน์ของฟันยางนี้จะช่วยเปิดทางเดินหายใจส่วนต้นให้กว้างขึ้น โดยการยื่นขากรรไกรล่างและลิ้นมาทางด้านหน้า ส่วนปัญหาที่พบมากจากการใส่ฟันยางนี้ คือ ปวดขากรรไกร การสบฟันเปลี่ยนไป รวมทั้งมีน้ําลายไหลมาก
วิธีการที่ 3 การผ่าตัด
การผ่าตัดสามารถทําได้หลายรูปแบบ เช่น การผ่าตัดแก้ไขจมูกคด การจี้เยื่อบุโพรงจมูกที่บวม จะช่วยลดอาการคัดจมูกหรือ กรนได้บ้าง แต่มักไม่ช่วยทําให้โรคหายได้จึงมักเป็นการรักษาเสริมกับการรักษาอื่นๆ การผ่าตัดจะได้ผลดีในครึ่งหนึ่งของผู้ป่วย จึงควรปรึกษาแพทย์ถึงความเหมาะสม เพราะอาจมีภาวะแทรกซ้อนจากการผ่าตัดได้ เช่น พูดไม่ชัด สําลักน้ําขึ้นจมูก เป็นต้น จึงควรติดตามอาการและตรวจการนอนหลับซ้ําในห้องปฏิบัติการภายหลังการผ่าตัดแล้วระยะหนึ่ง

อาจารย์ พญ.วิสาข์สิริ ตันตระกูลภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี
สำหรับคนที่นอนกรน จากผลการวิจัยอุปกรณ์ที่มีลักษณะคล้ายฟันยางสามารถ รักษาอาการนอนกรนได้ ซึ่งอุปกรณ์ Oral Appliance จะมีคุณสมบัติ  ดังต่อไปนี้

คุณสมบัติ:
·         ป้องกันบดของฟัน
·         ช่วยลดอาการนอนกรน
·         ทำจากซิลิโคนอ่อนนุ่มที่ทำให้เรื่องนี้อย่างใดอย่างหนึ่งของยาสูบสะดวกสบายมากที่สุดในตลาด
·         สี่หลุมขนาดใหญ่ช่วยให้คุณสามารถหายใจ- ง่ายระหว่างการนอนหลับ
·         อากาศในฤดูใบไม้ผลิฐานช่วยให้ความสะดวกสบายสำหรับการเปิดกัดตัวแปรและอ่อนโยนtmร่วมการบีบอัด
·         กระบอกได้อย่างง่ายดายควบคุมตำแหน่งลิ้นของคุณ
·         เทคโนโลยีรูปแบบพร้อมช่วยให้คุณสามารถสวมใส่นี้กระบอกขวาออกจากแพคเกจโดยไม่ต้องต้มและกัด
    มันเป็นที่สำหรับ?

·         มันถูกออกแบบมาสำหรับผู้ใหญ่ที่มีสุขภาพที่ต้องการเพื่อลดระดับเสียงและความถี่ของการนอนกรน.
·         มันไม่เหมาะสำหรับเด็ก, สำหรับผู้ป่วยโรคลมชัก, ทุกคนที่มีฟันหรือหมากฝรั่งหรือสำหรับผู้ที่มีปัญหาการอุดกั้น sleepapneasyndrome( osa), ยกเว้นภายใต้การกำกับดูแลของทันตแพทย์หรือแพทย์. ผู้ประสบภัยของosaซ้ำสำหรับหยุดหายใจขณะนอนหลับระยะเวลาสั้นๆ.

·         อุปกรณ์นี้ไม่ได้เป็นเสมอที่มีประสิทธิภาพในการรักษาosa, ดังนั้นมันจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะแสวงหาคำแนะนำจากแพทย์ถ้าคุณสงสัยที่คุณอาจมีosa
    วิธีที่คุณใช้มัน?

·         แม่พิมพ์ก่อนกระบอกเสียงที่มีน้ำร้อนเพื่อความสะดวกสบายพอดีกับปากของคุณ.
·         รายละเอียดขั้นตอน- by- ขั้นตอนคำแนะนำจะรวมและการจัดการที่แท็บจะถูกให้. หลังจากนี้เหมาะสมone- off, คุณวางอุปกรณ์เข้าไปในปากของคุณก่อนที่จะหลับ, และเอามันออกไปเมื่อคุณตื่น.

·         อุปกรณ์ที่สามารถวางในกรณีการป้องกันให้ใช้ระหว่างที่จะให้มันแห้งและเพื่อปกป้องมันจากสิ่งสกปรกและความเสียหาย.

·         ถ้าด้วยเหตุผลใดก็ตามที่คุณจำเป็นต้องre- แม่พิมพ์มันเพียงทำตามคำแนะนำการปั้นอีกครั้ง.

    วิธีการที่ไม่มันทำงาน?

·         หนังสือพิมพ์ผู้ถือเบาๆของคุณเล็กน้อยในขากรรไกรล่างตำแหน่งไปข้างหน้าในขณะที่คุณนอนหลับ.




นี้เปิดทางเดินลมหายใจในลำคอของคุณซึ่งจะช่วยลด/กำจัดเสียงกรน.
สนใจสั่งจองได้ ในราคารวมส่ง EMS 430 บาท เท่านั้นมีจำนวนจำกัด.


เบอร์ติดต่อ 0618213734 line id. guitartook
ส่วนที่จะให้แสดง ส่วนที่เหลือ