น่าสนใจ

วันพุธที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2552

มือถือเปื้อนเลือด



1,222,245,200,000 คือ ยอดขายโทรศัพท์มือถือในปี 2551
จากสถิติ ของ Worldwatch institute ระบุว่า
ระยะเวลาเฉลี่ยในการใช้โทรศัพย์มือถือ 1 เครื่อง
ในปัจจุบันมีอยู่ราว 14 เดือน ก่อนจะเปลี่ยนเครื่องใหม่
นับว่าน้อยกว่าอายุการใช้งานจริงที่ควรจะเป็น
ทั้งๆที่มือถือยุคใหม่ไม่ได้ทำอะไรออกมาสนองความต้องการมากนัก
และระยะเวลาในการใช้งานอาจจะน้อยเกินไปกว่านั้น
ในกลุ่มผู้ใช้มือถือที่เห็นเป็นเพียงอุปกรณ์เสริมความมั่นใจ
เปลี่ยนเครื่องใหม่ทุกครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าอยู่ในเทรนด์และได้ของที่ฉลาดสุดๆอยู่ในมือแต่รู้หรือไม่ว่า เบื้องหลังความพอใจที่ได้อินเทรนด์นี้ ยอดขายหลายล้านๆเครื่องในแต่ละปี หมายถึง น้ำตา ฝันร้าย และ ความตายของชาวคองโกนับล้านชีวิต นี่ยังไม่นับรวม การฆาตกรรมหมู่ในป่าลึก , ความตายของกอริลล่ายักษ์ ที่อาจเหลือฝูงสุดท้ายในรวันดา ตัวเชื่อมที่ทำให้มือถือโยงไปถึงสงครามร้ายแรงที่สุด ในประวัติศาสตร์แอฟริกาคือ โคลัมไบต์-แทนทาไลต์ หรือ แร่โคลแทนที่พบมากในแอฟริกากลาง , แน่นอน...ในคองโก
ด้วยคุณสมบัติทนความร้อนสูง ทำให้ผงแทนทาลัม ที่สกัดได้จากโคลแทน กลายเป็นวัตถุดิบจำเป็นที่อยู่ในมือถือ คอมพิวเตอร์ , เพลย์สเตชั่นฯลฯ โคลแทน กลายเป็น black gold ในขณะเดียวกัน สงครามคองโกครั้งที่ 2 ทำให้แร่สีดำชนิดนี้ กลายเป็นแร่สีเลือด blood coltan เพราะการลักลอบทำเหมืองและส่งออกโคลแทน
กลายเป็นแหล่งหารายได้ที่เติมเชื้อไฟให้กับ African World War ในจำนวนประเทศทั้ง 8 ที่ติดหล่มสงคราม
และกองกำลังติดอาวุธกว่า 20 กลุ่ม หลายกลุ่มหาผลประโยชน์จากพื้นที่คองโก ที่ประเมินว่ามีแร่โคลแทนมากถึง 80% ของปริมาณโคลแทนในโลก การดิจิไทซ์โลก ถนนทุกสายจึงมุ่งไปที่พื้นดินของคองโก
กองกำลังประชาธิปไตย กลุ่มปลดปล่อยรวันดาหรือ FDLR ที่มีชาวฮูตูเป็นแกนนำ เป็นตัวอย่างที่เห็นชัด
ของการำเหมืองแร่ในคองโกอย่างผิดกฏหมาย แม้จะต้องเสี่ยงจากการถูกปราบปรามจากรัฐบาลคองโก
แต่ FDLR และอีกหลายกลุ่ม ก็เห็นว่ามันเป็นความเสี่ยงที่คุ้มค่าอยู่ดี เพราะแทนทาลัมเพียง 1 ปอนด์ทำเงินร่วม หมื่นบาท แทนทาลัม 1 ปอนด์ เป็นได้ทั้งตัวเก็บประจุในโทรศัพท์มือถือเครื่องใหม่ และแปลงเป็น AK-47 พร้อมกระสุนให้กับกองกำลังติดอาวุธ หน่ำซ้ำในกระบ วนการร่อนแร่หาโคลแทนแรงงานที่ถูกบังคับให้ทำเยี่ยงทาส ก็คือเด็กๆคองโกลีส ซึ่งองค์การสหประชาชาติรายงานว่า ในบางพื้นที่ของคองโก
ในเด็ก 100 คนจะมี 30 คน ที่ต้องใช้เวลาทั้งวัน ไปกับการแยกโคลแทนออกจากเศษหินอื่นๆ
เงินค่าจ้างไม่ถึง 35 บาท ต่อการหาโคลแทนให้ได้ 1 ปอนด์ เรื่องมือถือเปื้อนเลือดถูกพูดถึงเมื่อหลายปีก่อน
บริษัทระดับโลกอย่าง Nokia,Ericsson,Moto,Acer ,Compaq ออกมาปฎิเสธเสียงแข็งว่า โคลแทนที่ใช้ในการผลิตของตน ไม่ได้มาจากคองโก แต่มีซัพพลายเออร์ที่เชื่อถือได้หามาให้ ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่บอกได้ว่า แทนทาลัมในมือถือที่พกติดตัวจนกลายเป็นอวัยวะที่ 33 นั้นมาจากคองโกหรือเปล่า การตรวจสอบเส้นทางของแทนทาลัมนั้น ต่อให้ใช้วิธีตามไปดูถึงที่แบบกบนอกกะลา ก็ยังไม่สามารถบอกที่มาได้ โคลแทนได้ถูกลักลอบเอาออกนอกคองโกเข้าสู่ตลาดมืด และขายทอดต่อไปเรื่อยอีกอย่างน้อย 10 ทอด กว่าจะไปถึงผู้จัดหารายใหญ่ ที่บริษัทบิ๊กๆเลือกเป็นคู่ค้า ความพยายามทุกวิถีทาง เพื่อให้ได้วัตถุดิบ มารองรับความต้องการการซื้อมือถือในตลาดโลก นอกจากจะมีส่วนสร้างประวัติศาสตร์เลือดให้กับอัฟริกาแล้ว ยังส่งผลร้ายต่อสัตว์ป่าด้วย สัตว์ป่าน้อยใหญ่ กอริล่า และช้างป่านับพัน ถูกฆ่าจากการโดนบุกรุกของมนุษย์เพื่อหาโคลแทน เพราะในพื้นที่ๆขุดหาโคลแทน มันคือ บ้านของ กอริลล่าภูเขา
ที่เหลืออยู่บนโลกนี้ ไม่กี่ร้อยตัว สัตว์ร่วมวงศ์กับมนุษย์ ที่แสนจะขี้อาย สุภาพ ไม่เพียงถูกเหมืองคุกคามถิ่นที่อยู่ พวกทำเหมืองยังล่าพวกมันเอาหัว บางทีก็ชำแหละนำเนื้อมากินด้วย สวนสัตว์ในแอฟริกาหลายแห่ง รณรงค์การรีไซเคิลมือถือ เพื่อลดอัตราการใช้โคลแทนในการผลิตมือถือใหม่ ด้วยหลังจะชะลอการสูญพันธุ์ของกอริลล่าภูเขาในคองโกได้บ้าง แต่ดูเหมือนไม่ทั นต่ออัตราการเติบโต ของอุปกรณ์ที่เป็น “ มากกว่าใช้พูด ” แต่ส่วนใหญ่ ” ก็ใช้แค่พูด ” เท่านั้น ในทวีปแอฟริกาเอง พิษภัยจากมือถือคุกคามชีวิตและทรัพยากรตัวเอง แต่อัตราการใช้มือถือก็เพิ่มขึ้น 1000% เช่นเดียวกับจำนวนคนบริสุทธิ์ที่ล้มตายลง ในสงครามกลางเมืองคองโก ประมาณการณ์กันว่า นับแต่ปี 2547 ซึ่งเป็นปียุติสงครามอย่าง เป็นทางการ ยังมีผู้เสียชีวิตจากความรุนแรงรูปแบบต่างๆถึง เดือนละ 45,000 คน หรือ ปีละ 540,000 คน ตัวเลขนี้ยัง ไม่รวมถึง
ผู้หญิงหลายหมื่นที่ถูกทารุณทางเพศ ของกลุ่มติดอาวุธต่างๆ เพียงแต่พวกเธอยังไม่ตาย 1,222,245,200,000 กับ 540,00 0 อาจมีหน่วยนับต่างกัน แต่อัตราการขยายตัวกลับแปรตามกันอย่างน่ากลัว ถ้าความอินเทรนด์ของคุณ นำมาซึ่งตัวเลขที่มีหน่วยศพเพิ่มมากขึ้น คุณยังอยากเปลี่ยนมือถือทัชสกรีนมาใช้เล่นอีกสักเครื่องไหม ...!?!

จากคอลัมภ์ " ไม่ซื้อ..ไม่ตาย" นิตยสาร ค คน